สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ขานรับมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการอ่าน มาตรการภาษีเพื่อพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี ๒๕๖๒ กระทรวงการคลัง ตามแถลงการณ์ ของคณะกรรมการบูรณาการส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ โดย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการบูรณาการส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ โดยมีใจความสำคัญว่า รัฐบาลได้ดำเนินงานตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐–๒๕๖๔) เรื่องการเตรียมพร้อมด้านกำลังคนและการเสริมสร้างศักยภาพของประชากรในทุกช่วงวัย และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ที่มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพทุนมนุษย์ของประเทศ และเล็งเห็นว่าจำเป็นต้องกำหนดมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนส่งเสริมการอ่าน และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อหนังสือ รวมถึงสามารถสนับสนุนให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในวงการหนังสือ และสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด รวมทั้งหนังสือที่อยู่ในรูปแบบของ E-book
โดยคณะรัฐมนตรีได้ลงมติเห็นชอบ มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการอ่าน มาตรการภาษีเพื่อพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี ๒๕๖๒ แล้วเมื่อวันที่ ๓o เมษายน ๒๕๖๒ โดยกำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล สามารถนำค่าหนังสือ และค่าบริการ e-book ทุกประเภทตามที่จ่ายจริง ไปเป็นค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ โดยลดหย่อนได้ไม่เกิน ๑๕,ooo บาท โดยค่าใช้จ่ายในการซื้อหนังสือในครั้งนี้ หากคิดรวมกับรายจ่ายในการซื้อหนังสือและสื่อสิ่งพิมพ์ที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ ๑-๑๖ มกราคม ๒๕๖๒ ตามมาตรการช้อปช่วยชาติ ต้องไม่เกิน ๑๕,ooo บาท ดังนั้นสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ในฐานะองค์กรตัวแทนธุรกิจหนังสือและสิ่งพิมพ์ จึงได้กำหนดแผนงานสนับสนุนมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการอ่าน มาตรการภาษีเพื่อพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี ๒๕๖๒ดังนี้
- ร่วมกับ ร้านหนังสือ อาทิ นายอินทร์ บีทูเอส ซีเอ็ด และ ร้านหนังสืออิสระ จัดเทศกาลหนังสือ Book for Mum ในเดือนสิงหาคม และ เทศกาลหนังสือ Book for Gift ในเดือนธันวาคม เพื่อสร้างโอกาสการซื้อและจำหน่ายหนังสือได้มากขึ้น
- ร้านหนังสือ สํานักพิมพ์จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย สนับสนุนให้เกิดการซื้อและการจำหน่ายหนังสือจาก ร้านหนังสือ อาทิ นายอินทร์ บีทูเอส ซีเอ็ด และ ร้านหนังสืออิสระ รวมถึงการจำหน่าย e-book ด้วย
- จัดกิจกรรมเสวนา รวมถึง Clip VDO เผยแพร่ โดยเชิญ Idol / Influencer ที่ประสบความสําเร็จ ด้วยการอ่านทุกเดือน (มิ.ย. – ธ.ค.๒๕๖๒)
- ประสัมพันธ์โครงการผ่านสื่อต่าง ทั้ง offline และ online
ซึ่งสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย และรัฐบาลคาดว่าหลังจากมีมาตรการนี้ จะส่งผลในทางบวกต่อกำลังซื้อของประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ซึ่งยังมีความจำเป็นต้องจัดซื้อหนังสือเรียนให้กับบุตรหลาน อีกทั้งจากผลสำรวจของการดำเนินมาตรการภาษีเพื่อเกษตร ชุมชนและทุนมนุษย์ หรือช้อปช่วยชาติในช่วงปลายปีคือตั้งแต่๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๑ ถึง ๑๖ มกราคม ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนทั่วไปมีความต้องการให้ขยายเวลาของมาตรการภาษีเพื่อซื้อหนังสือ รวมทั้งภาคเอกชนที่ประกอบธุรกิจการพิมพ์ แจ้งว่าในช่วงดังกล่าวมีปริมาณการสั่งซื้อหนังสือรวมประมาณ ๘๓๑ ล้านบาท มากกว่าที่สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยประเมินไว้ ขณะที่ร้านหนังสือที่เป็นเชนรายใหญ่ๆ นั้นต่างก็มียอดขายที่เพิ่มกว่าช่วงปกติเช่นเดียวกัน